หลังจากมาร์เวล เตรียมส่ง Captain America: Civil War ในวันที่6 พฤษภาคม 2016 มาลงโรงภาพยนตร์ ซึ่งแฟนคอมมิคคงจะพอคาดเดาได้แล้วว่าอีเวนท์นี้จะเกี่ยวกับมหาสงครามระหว่าง Iron Man กับ Captain America วันนี้เราจะพาไปดูชนวนที่นำไปสู่ความไม่ลงรอยของศึกครั้งนี้กัน ซึ่งสำคัญมากเพราะ Civil War เป็นประตูเปิดเข้าไปสู่เฟส3 ของจักรวาลมาร์เวลและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ๆ
จาก The Avenger Age of Ultron เนื้อเรื่องเริ่มแสดงให้เห็นความบาดหมางและไม่ลงรอยระหว่าง สตีฟ โรเจอร์ (กัปตันอเมริกา) และ โทนี่ สตาร์ค (ไอรอนแมน) ซึ่งมีความคิดเห็นไม่ตรงกันในหลายเรื่อง เช่นมุมมองของโทนี่ที่คิดว่าการจะทำให้โลกสงบสุขได้ต้องสร้างการป้องกันที่แข็งแกร่งนั่นคือการสร้างอัลตรอน จนนำไปสู่ความคิดที่ผิดพลาด และนั่นหมายถึงว่าความคิดของโทนี่ รุนแรงและอันตรายมากในสายตาของโรเจอร์ รวมไปถึงการแอบทำโครงการอัลตรอนเพียงลำพังกับบรูซ โดยไม่ได้บอกพวกพ้อง ทำให้โรเจอร์เริ่มมอง โทนีในทางที่เปลี่ยนไป
อีเวนท์ Civil War สร้างจากคอมมิคที่มีด้วยกัน 7 เล่มจบ ว่าด้วยกฎหมายลงทะเบียนซูเปอร์ฮีโร่ (Superhero Registration Act) ซึ่งเป็นกฎหมายที่จะต้องให้ซุปเปอร์ฮีโร่ทุกคนเปิดเผยตัวตนต่อรัฐบาลสหรัฐ และฝึกเป็นสายตรวจของรัฐบาลมีหน้าที่ช่วยเหลือพลเมือง คล้ายๆกับตำรวจ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนว่าฮีโร่คนไหนจะคอยช่วยเหลือเขา ซึ่งปกติโทนี่ สตาร์ค เป็นคนที่เปิดเผยความเป็นฮีโร่อยู่แล้วตั้งแต่การเปิดตัวกลางวงแถลงข่าวในหนัง Iron Man ทำให้ โทนี่ สตาร์ค ผลักดันและสนับสนุนกฎหมายฉบับนี้
แม้มันจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนแต่ผลร้ายคือมันสร้างความไม่ปลอดภัยให้กับบรรดาฮีโร่และครอบครัว รวมถึงเป็นการละเมิดสิทธิพลเมืองด้วย เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้จะมีการควบคุมฮีโร่ด้วยมาตรการพิเศษ จุดนี้เองทำให้มีการแบ่งขั้วความคิดออกเป็น 2 ฝ่าย นำไปสู่การห้ำหั่นกันจนไปสู่จุดจบที่แฟนคอมมิคส์รู้ดีว่าจะมีผู้สูญเสียในการสู้กันครั้งนี้ และกลายเป็นจุดเปลี่ยนโฉมหน้าของ Avengers และหนังฮีโร่ที่จะตามฉายต่อไปจนถึงปี 2019 ด้วย
ทั้งนี้ Civil War จะปรากฎตัวละครใน Marvel อีกหลายตัวเข้ามาร่วมสงครามด้วยรวมถึงมีการจับตาดูว่าสไปเดอร์แมนอาจจะข้ามค่ายมาได้ในภาคนี้ ซึ่งเบื้องต้นเหล่านักวิเคราะห์เริ่มจะมีการวางไว้แล้วว่า ทีม Avengers และสมาชิกคนอื่นๆ เมื่อแบ่งฝ่ายกันแล้วใครจะอยู่ฝั่งใคร
ดูตัวอย่างได้ที่นี้
No comments:
Post a Comment